สารบัญ
5 เครื่องมือทำ SEO ที่คนไทยนิยมใช้งาน มีตัวไหนบ้าง และข้อดีข้อเสียของแต่ละเครื่องมือ
การทำ SEO (Search Engine Optimization) เป็นหนึ่งในวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์และสร้างการรับรู้แบรนด์ในโลกออนไลน์ได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งในการทำ SEO นั้นมีเครื่องมือมากมายที่ช่วยให้ผู้ทำ SEO ได้รับข้อมูลและวิเคราะห์เว็บไซต์ของตัวเองและคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับในประเทศไทย เครื่องมือ SEO ที่คนไทยนิยมใช้งานมากที่สุดมีดังนี้
1. Google Search Console
ข้อดี
- เป็นเครื่องมือฟรีจาก Google เอง ทำให้เชื่อถือได้ในการติดตามและวิเคราะห์เว็บไซต์
- สามารถดูข้อมูลการค้นหา ข้อมูลการคลิกเข้าเว็บไซต์ และปัญหาด้าน SEO ของเว็บไซต์ได้อย่างละเอียด
- ช่วยในการตรวจสอบการทำงานของเว็บไซต์ เช่น การทำ Mobile-Friendly หรือการตรวจสอบปัญหาด้านการรวบรวมข้อมูล (Crawl errors)
ข้อเสีย
- ข้อมูลบางส่วนมีการจำกัดในระยะเวลาการแสดงผลเพียง 16 เดือน
- การใช้งานสำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้ทางเทคนิคอาจจะมีความซับซ้อน
2. Ahrefs
ข้อดี
- มีฐานข้อมูล Backlink ที่ใหญ่และครอบคลุมมาก ทำให้สามารถตรวจสอบลิงก์ย้อนกลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ฟีเจอร์การวิเคราะห์คู่แข่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูว่าคู่แข่งกำลังทำอะไรเพื่อให้มีอันดับสูงใน SERP
- สามารถวิเคราะห์คำค้น (Keyword) และแนะนำคำค้นที่น่าสนใจได้อย่างครอบคลุม
ข้อเสีย
- ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงสำหรับธุรกิจขนาดเล็กหรือผู้เริ่มต้น
- เครื่องมือบางอย่างมีข้อมูลที่ซับซ้อน อาจต้องมีความรู้เชิงลึกเพื่อการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ
3. SEMrush
ข้อดี
- มีฟีเจอร์ที่ครอบคลุมทั้ง SEO, PPC, การทำ Content Marketing และ Social Media
- สามารถวิเคราะห์เว็บไซต์และติดตามการจัดอันดับของคำค้นในหลากหลายประเทศ
- มีฟีเจอร์สำหรับการทำ Keyword Research ที่มีประสิทธิภาพ และช่วยติดตามคำค้นที่เราต้องการ
ข้อเสีย
- ค่าใช้จ่ายสูงโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ฟีเจอร์ขั้นสูง
- การเรียนรู้การใช้งานในช่วงแรกอาจใช้เวลาเนื่องจากมีเครื่องมือที่ซับซ้อนและหลายฟีเจอร์
4. Moz Pro
ข้อดี
- ฟีเจอร์ในการตรวจสอบการทำ SEO บนเว็บไซต์ เช่น การติดตาม Backlink, การวิเคราะห์คำค้น, และการวิเคราะห์การทำงานของเว็บไซต์
- มีฟีเจอร์ MozBar ซึ่งเป็น Extension บน Browser ที่ช่วยให้การวิเคราะห์หน้าเว็บเป็นเรื่องง่าย
- คะแนน Domain Authority (DA) และ Page Authority (PA) เป็นมาตรฐานที่นิยมใช้ในการวัดความแข็งแกร่งของเว็บไซต์
ข้อเสีย
- ฟีเจอร์บางอย่างยังไม่ครอบคลุมเท่ากับ Ahrefs หรือ SEMrush
- การวิเคราะห์ Backlink มีความครอบคลุมแต่ไม่ละเอียดเท่า Ahrefs
5. Screaming Frog SEO Spider
ข้อดี
- เป็นเครื่องมือวิเคราะห์โครงสร้างเว็บไซต์ที่สามารถรวบรวมข้อมูลได้อย่างละเอียด เช่น การตรวจสอบ Meta Tags, Broken Links, Redirects และอื่น ๆ
- รองรับการตรวจสอบโครงสร้างของเว็บไซต์ขนาดใหญ่ ทำให้สะดวกในการค้นหาปัญหา SEO ทางเทคนิค
- มีเวอร์ชันฟรีที่สามารถใช้งานได้สำหรับการรวบรวมข้อมูลในจำนวนที่จำกัด
ข้อเสีย
- ส่วนฟรีจำกัดการใช้งานที่ 500 URLs ซึ่งอาจไม่เพียงพอสำหรับเว็บไซต์ขนาดใหญ่
- การใช้งาน Screaming Frog ค่อนข้างเทคนิคและต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับโครงสร้างเว็บไซต์